AI (เอไอ)คืออะไรวิธีการทำให้คอมพิวเตอร์มีความสามารถคล้ายมนุษย์AI :Artificial Intelligence (อาร์ตทิฟิคอลอินทอลนิจิน) หรือปัญญาประดิษฐ์เป็นศาสตร์แขนงหนึ่งของวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับวิธีการทำให้คอมพิวเตอร์มีความสามารถคล้ายมนุษย์หรือเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์คือโปรแกรมSoftware (ซอฟแวร์)ต่าง ๆ ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะความสามารถในการคิดเองได้หรือมีปัญญานั่นเองปัญญานี้มนุษย์เป็นผู้สร้างให้คอมพิวเตอร์ จึงเรียกว่าปัญญาประดิษฐ์
คำนิยาม AI ตามความสามารถที่มนุษย์ต้องการแบ่งได้
4 กลุ่มดังนี้
การกระทำคล้ายมนุษย์Acting
Humanly (แอคติ่ง
ฮูแมนลี่)
-
การสร้างเครื่องจักรที่ทำงานในสิ่งซึ่งอาศัยปัญญาเมื่อกระทำโดยมนุษย์
- สื่อสารได้ด้วยภาษาที่มนุษย์ใช้ เช่น ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ
ตัวอย่างคือ การแปลงข้อความเป็น
คำพูดและ การแปลงคำพูดเป็นข้อความ
- มีประสาทรับสัมผัสคล้ายมนุษย์ เช่น
คอมพิวเตอร์รับภาพได้โดยอุปกรณ์รับสัมผัส แล้วนำภาพไป
ประมวลผล
- เคลื่อนไหวได้คล้ายมนุษย์ เช่น หุ่นยนต์ช่วยงานต่าง ๆ อย่างการ
ดูดฝุ่น เคลื่อนย้ายสิ่งของ
- เรียนรู้ได้ โดยสามารถตรวจจับรูปแบบการเกิดของเหตุการณ์ใดๆ
แล้วปรับตัวสู่สิ่งแวดล้อมที่
เปลี่ยนไปได้
การคิดคล้ายมนุษย์Thinking
Humanly (แทงกิง
ฮูแมนลี่)
- กลไกของกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความคิดมนุษย์ เช่นการตัดสินใจ
การแก้ปัญหา การเรียนรู้
- ก่อนที่จะทำให้เครื่องคิดอย่างมนุษย์ได้ต้องรู้ก่อนว่ามนุษย์มีกระบวนการคิดอย่างไรซึ่งการ
วิเคราะห์ลักษณะการคิดของมนุษย์เป็นศาสตร์ด้าน cognitive
science (คลอนิทีฟ
ไซอิน) เช่น ศึกษา
โครงสร้างสามมิติของเซลล์สมองการแลกเปลี่ยนประจุไฟฟ้าระหว่างเซลล์สมองวิเคราะห์การ
เปลี่ยนแปลงทางเคมีไฟฟ้าใน ร่างกายระหว่างการคิด
ซึ่งจนถึงปัจจุบันเราก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่ามนุษย์
เรา คิดได้อย่างไร
คิดอย่างมีเหตุผล
Thinkingrationally (แทงกิงราสโนรี่)
-การศึกษาความสามารถในด้านสติปัญญาโดยการใช้โมเดลการคำนวณ
-การศึกษาวิธีการคำนวณที่สามารถรับรู้ ใช้เหตุผล และกระทำ
-ใช้หลักตรรกศาสตร์ในการคิดหาคำตอบอย่างมีเหตุผล เช่น
ระบบผู้เชี่ยวชาญ
กระทำอย่างมีเหตุผล
Actingrationally (แอคติงราสโนรี่)
-การศึกษาเพื่อออกแบบโปรแกรมที่มีความสามารถในการกระทำหรือเป็นตัวแทนในระบบ
อัตโนมัติต่าง ๆ ที่มีปัญญา
-พฤติกรรมที่แสดงปัญญาในสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น
-การเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ เช่น
โปรแกรมเล่นเกมหมากรุกที่จะทำให้คู่ต่อสู้แพ้ให้ได้
ตัวอย่างงานด้าน AI (เอไอ) ปัญญาประดิษฐ์
-การวางแผน และการจัดตารางเวลาอัตโนมัติ autonomous
planning and scheduling (ออโทโนมัส
แพนนิง แอน แซกดูลิ่ง) ตัวอย่างที่สำคัญคือ
โปรแกรมควบคุมยานอวกาศระยะไกลขององค์การ
NASA(นาซา)
-gameplaying (เกมส์เพล์อิ่ง) เช่น โปรแกรมคอมพิวเตอร์ Deep
Blue (ดีพบลู)
ของบริษัทไอบีเอ็ม
เป็นโปรแกรมเล่นเกมหมากรุก
สามารถเอาชนะคนที่เล่นหมากรุกได้เก่งที่สุดคือ GarryKasparov
(แกรี่คาสปารอฟ) ด้วยคะแนน 3.5 ต่อ
2.5 ในเกมการแข่งขันหาผู้ชนะระดับโลก เมื่อปี ค.ศ.1997
-การควบคุมอัตโนมัติ autonomous control (ออโทโนมัส คอนโทล) เช่น ระบบ ALVINN
:
Autonomous Land Vehicle Ina Neural
Network (ออโทโนมัส แลน
วีคลอ อิน อนูเรอร์ เน็ตเวิก)
เป็นระบบโปรแกรมที่ทำงานด้านการมองเห็นหรือคอมพิวเตอร์วิทัศน์ computervision
system
(คอมพิวเตอร์วิชัน ซิสเต็ม)โปรแกรมนี้จะได้รับการสอนให้ควบคุมพวงมาลัยให้รถแล่นอยู่ใน
ช่องทางอัตโนมัติ
-การวินิจฉัย diagnosis (ไดนอสิส) เป็นการศึกษาเรื่องสร้างระบบความรู้ของปัญหาเฉพาะอย่าง เช่น
การแพทย์หรือวิทยาศาสตร์จุดประสงค์ของระบบนี้คือทำให้เสมือนมีมนุษย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้
คำปรึกษาและคำตอบเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ
-หุ่นยนต์ robotics (โรบอทติก) เช่น หุ่นยนต์ ASIMO (อาสิโม) หุ่นยนต์จิ๋วช่วยในการผ่าตัด
-การแก้โจทย์ปัญหา problem solving (พลอมแพม โซวิ่ง) เช่น โปรแกรม PROVERB
(โปรบิส)
ที่แก้ปัญหาเกมปริศนาอักษรไขว้ ซึ่งทำได้ดีกว่ามนุษย์
ตัวอย่าง AI ในโลกของภาพยนต์
ภาพยนต์เรื่องต่าง ๆ เช่น Terminator (ทรานฟรอเมอร์) Surrogates
(ซักโรเลต),iRobot
(ไอโรบอท) หรือ MinorityReport
(มิโลนิตี้รีพอร์ต)
เป็นต้น
จะได้เห็นการทำงานของหุ่นยนตร์ที่มีปัญญาที่คิดได้เองและสามารถทำงานแทนมนุษย์ได้ทั้งดีหรือไม่ดี
สรุป
AI (เอไอ)นั้นถูกเอามาใช้ในงานแทนมนุษย์หลายอย่าง
เช่น Call Center (คอล เซนเตอร์) ต่าง ๆเพื่อลดการใช้แรงงานคน
และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า แต่อนาคต AI จะสามารถมาแทนการทำงานที่ซับซ้อนของคนได้แน่นอนเช่น
การวางแผน การทำกลยุทธ์ทางการตลาด และการสร้างเนื้องาน Content(คอนเทน) ต่าง
ๆฉะนั้นการเรียนรู้ที่จะปรับตัวและเรียนรู้ที่จะใช้ AI ให้เป็นประโยชน์นั้นจะมีความสำคัญมากต่อธุรกิจในอนาคตและทำให้ธุรกิจนั้นมีความได้เปรียบนั้นอย่างแน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น